ผ่าน ไปเกือบ 1 ปี วันนี้สยามอัพเดทได้นำเรื่องของนาย ‘ยงยุทธ แก้วสวนจิก’ หนุ่มรปภ.ชาวหนองหาน อุดรธานี ที่โชคดีถูกรางวัลที่ 1 ได้เงิน 30 ล้าน หลังเคลียร์กับเมียเรียบร้อย ได้หันไปใช้ชีวิตแบบพอเพียงซื้อที่ดินขุดสระเลี้ยงปลา ทำนา เลี้ยงหมู เงินที่เหลือฝากธนาคารไว้กินดอก…
วันที่ 25 มิ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านหนองบ่อ หมู่ 14 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ภายหลังได้พบกับนายธรรมรงค์ หรือยงยุทธ แก้วสวนจิก อายุ 39 ปี ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 339 หมู่ 14 บ้านหนองบ่อ หนุ่ม รปภ.ที่โชคดีถูกหวย 30 ล้านบาทเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 จนเป็นข่าวโด่งดังเมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่าน หลังผ่านพ้นปัญหาที่เกือบจะมีการฟ้องร้องกับอดีตภรรยาในเรื่องการแบ่งเงิน ที่ได้มา แต่ต่อมาสามารถตกลงกันได้ นายยงยุทธ ได้หันไปทำการเกษตร และใช้ชีวิตแบบพอเพียง
นายยงยุทธ แก้วสวนจิก หรือที่คนรู้จัก เรียกว่า ปาน กล่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตนถูกหวย 30 ล้านแล้ว ได้กลับมาบ้านเกิด นำเงินที่ได้ไปชำระหนี้ทั้งของตัวเองและญาติพี่น้อง พร้อมกับลงทุนให้ญาติ ส่วนที่เหลือตนได้นำเงินมาซื้อที่ดินที่บ้านหนองบ่อจำนวน 30 ไร่ ซึ่งที่ดินแปลงนี้ตนและพ่อแม่เคยอาศัยอยู่ แต่ไม่ได้เป็นของตัวเอง แค่ดูแลให้คนอื่น จนกระทั่งพ่อของตนโชคร้ายถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตอยู่ในที่ดินผืนนี้ ซึ่งในสุดก็ตกเป็นของตนในเนื้อที่ 30 ไร่ นำมาทำไร่นาสวนผสม แบ่งพื้นปลูกบ้าน 1 หลังในราคาประมาณ 2 ล้าน 5 แสนบาท ใกล้แล้วเสร็จขุดสระเลี้ยงปลาและได้ปล่อยปลาไปแล้วนับแสนตัว พร้อมกับทำนา ปลูกมะม่วง มะพร้าว พุทราสามรส จำนวนหลายร้อยต้น เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหมู
นอก จากนี้ ยังได้ซื้อที่ดินหนึ่งแปลงติดกับถนนสายอุดรธานี-สกลนคร เพื่อสร้างเป็นร้านของชำ ทั้งขายส่งและปลีก โดยให้หลานเป็นคนดูแล ส่วนตนส่วนมากจะมาใช้ชีวิตปลูกต้นไม้ให้อาหารปลา ให้อาหารเป็ด ไก่ หมู รู้สึกว่าสบายใจไม่วุ่นวาย ซึ่งตนเป็นคนชอบอยู่เงียบๆ
“สำหรับการใช้ ชีวิตหลังถูกหวยก็ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ใช้เงินอย่างประหยัด เงินที่เหลือนำไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย และซื้อทองเก็บไว้ รวมทั้งทำพินัยกรรมไว้แล้ว แต่ไม่ขอบอกว่าในพินัยกรรมระบุจะยกให้ใคร ขอบอกว่ามีการวางแผนใช้เงิน ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแน่นอน และปกติเป็นคนชอบทำบุญ หลังถูกหวยก็ได้นำเงินส่วนหนึ่งร่วมกับชาวบ้านสร้างหอระฆังที่วัดบูรพาราม บ้านหนองบ่อ หมู่ 14 รวมถึงตอนนี้กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีด้วย” นายยงยุทธ หรือปาน กล่าว.
ที่มา http://www.khaoyim.com/2016/07/30_23.html