เมื่อวันที่ 21 ก.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางวัดได้ทำการรื้อบริเวณองค์พระประธานองค์เดิม ที่ตั้งอยู่ภายในหอฉัน ใกล้กับโบสถ์วัดโคกมะม่วง (วัดโคกกระท้อน) ม.2 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง และพบเรื่องที่น่าอัศจรรย์ จึงอยากขอให้ไปช่วยบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
พบว่าภายในหอฉัน ซึ่งเป็นที่ขุดพบพระมีร่องรอยปูนซีเมนต์เพิ่งเทลาดใหม่หมาดๆ ยังไม่แห้ง ชาวบ้านชี้ให้ดูตำแหน่งที่ขุดพบพระ ซึ่งเดิมเป็นฐานรองรับองค์พระ สูงประมาณ 90 ซม. โดยชาวบ้านบอกว่า ตอนที่ช่วยกันทุบฐานพระ ทุบแล้วไม่สามารถยกออกมาได้ เพราะเป็นฐานอิฐดินเผา แต่จู่ๆ ก็มีรถแบ็กโฮไม่รู้มาจากไหน คนขับได้ขับรถเข้ามาช่วยยกฐานพระองค์เดิมออกไป ทั้งๆ ที่ทางวัดไม่ได้มีการว่าจ้าง หรือร้องขอจากหน่วยงานใด เมื่อยกฐานออกก็เห็นเศียรพระ ซึ่งเป็นไม้โผล่ขึ้นมา จึงใช้มือค่อยๆ ขุดหวังจะเจอพระอื่นๆ อีก แต่ก็ไม่เจอ
ขณะที่ นางพัชรินทร์ อรุณสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านข้างวัด เล่าว่า ตนฝันเห็นพระลูกชายที่เป็นเจ้าอาวาสองค์ก่อน ชื่อ พระวิรันดร์ รักราวี ซึ่งมรณภาพไปแล้วได้มาเข้าฝัน โดยในฝันเห็นลูกชายอุ้มพระอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นพระอะไร บอกให้มาช่วยนำพระองค์นี้ออกไป ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เลยมาปรึกษากับพระใบฎีกาเอกพงษ์ วิทสุทธสีโร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน บวชมาแล้ว 9 พรรษา จบนักธรรมเอก เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 บอกเรื่องที่ตัวเองฝัน แต่ก็ไม่รู้ว่าพระองค์ที่เห็นในฝันนั้น อยู่ตรงจุดไหน
จนกระทั่งมีญาติโยมจากกรุงเทพฯ มาบูรณะหอฉันใหม่ เพื่อทำบุญ และได้สร้างฐานใหม่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อประดิษฐานพระ 3 องค์ ไว้บนแท่นเดียวกัน จึงได้ทำการย้ายพระองค์เก่าออก และสร้างฐานใหม่ด้านทิศเหนือของหอฉัน จะเป็นเรื่องอัศจรรย์ หรือความบังเอิญก็ไม่ทราบ เพราะมาขุดพบพระในวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นพระแกะสลักด้วยไม้จันทน์ ทั้งยังเป็นพระปางประจำวันจันทร์ อีกด้วย “นางพัชรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับพระแกะสลักไม้จันทน์องค์นี้ มีความสูงประมาณ 90 เซนติเมตร ทำจากไม้ท่อนเดียวกัน ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม เหนือฐานเป็นรอยบาก เพื่อประกอบกับไม้ จากนั้นจนถึงเศียรพระแกะสลักได้อย่างงดงามด้วยไม้ท่อนเดียวไม่มีรอยต่อ มีแต่พระหัตถ์ขวา ซึ่งแสดงท่าปางประจำวันที่หักไป ส่วนวัดโคกมะม่วงแห่งนี้ ไม่มีใครทราบว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.ใด แต่ชาวบ้านบอกว่าสร้างมาก่อนวัดสาริการามที่อยู่ใกล้เคียงกัน แต่อายุของวัดทั้งสองนี้น่าจะกว่า 300 ปีแน่นอน.
Cr. http://www.khaoth.com/2016/08/blog-post_18.html