จากการชักชวนร่วมทำบุญไถ่ชีวิตควายหนุ่มคลั่งหนีออกจากโรงเชือด ปรากฏมีน้ำใจหลั่งไหลทะลุเป้า จนสามารถไถ่ชีวิตควายในโรงเชือดได้ทั้งคอก
ไม่น่าเชื่อว่า จากข่าวดังกล่าวทำให้มีน้ำใจหลั่งไหลเพื่อช่วยไถ่ชีวิตเจ้าควายหนุ่มตัวนั้น จนสามารถเผื่อแผ่ไปช่วยชีวิตควายได้ทั้งโรงเชือด
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ และโพสลงเฟซบุ๊คส่วนตัว ปรากฏว่ามีน้ำใจหลั่งไหลร่วมบริจาคเข้ามาจำนวนมากเกินคาด
วสันต์ โพสในเฟซบุ๊คส่วนตัวเช้าวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า “จากการเริ่มต้นหาเงินเพื่อไถ่ชีวิตควายบุญช่วย ในครั้งแรกนี้ มีผู้ที่เมตตาสงสาร "บุญช่วย" ที่ดิ้นรน วิ่งหนีความตาย หลั่งไหลโอนเงินมาเพื่อช่วยไถ่ชีวิตมันออกจากโรงฆ่าสัตว์ จนมียอดเงินเกินไปมาก จนสามารถไถ่ชีวิตครอบครัวมัน ที่ถูกบรรทุกมาด้วยกันอีก 5 ตัว รวม"บุญช่วย"เป็นทั้งหมด 6 ตัว
เราจึงนำเงินจำนวนนี้ ไปไถ่ชีวิตของเพื่อนบุญช่วยที่เหลือในคอกสัตว์โรงฆ่าแห่งนั้นออกมาได้อีก17 ตัว รวมกับควายชุดแรก คือ ครอบครัวบุญช่วยอีก 6 ตัว รวมเป็นทั้งหมด 23 ตัว ใน 23 ตัวนี้มีลูกในท้องอีก 3 ตัว รวมกันเป็น 26 ชีวิต ที่พวกเราได้ไถ่ชีวิตเค้าออกมา
ในภายหลัง ช่วงเย็น ทางคอกสัตว์ได้แจ้งกลับมาว่า มีควายเพศเมียอีก 3 ตัว ที่มีลูกในท้อง ถ้าต้องการไถ่ชีวิตมันออกไปด้วย เขาก็ยอม จะได้เป็นการล้างคอกไปเลย ทั้งที่จากการพูดคุยในช่วงเช้า ทางคอกสัตว์เอง ไม่ต้องการให้ไถ่ อยากจะเก็บไว้เป็นแม่พันธุ์
"ผมจึงแจ้งข่าวนี้ออกไปทางเฟสบุ๊คอีกครั้งว่า ยังต้องการไถ่ชีวิตควายชุดนี้อีกไหม จึงมีผู้ที่มีเมตตาจิต สงสาร ร่วมกันโอนเงินมา บางคนรอบที่สอง รอบที่สาม.. ในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.)จะเป็นวันสุดท้ายที่จะเปิดการรับโอนเงินมาเพื่อไถ่ชีวิตควายในครั้งนี้แล้ว"
"ในเช้าวันที่ 11 สิงหาคม 2559 ผมจะปิดชื่อบัญชี วสันต์ วณิชชากร บ/ช 967-202-982-4 ออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี ปราจีนบุรี เป็นการถาวร เพื่อความโปร่งใสในการบุญครั้งนี้ และหลังงานไถ่ชีวิตโคกระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหานี้แล้ว ผมจะเปิดให้ตรวจสอบหลักฐานการเงิน เพื่อการนี้ เพื่อความสบายใจและความโปร่งใสของทุกฝ่าย”
ทั้งนี้ เมื่อคืนวันที่ 8 สิงหาคม วสันต์ โพสลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว เพื่อแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือควาย ระบุยอดเงินบริจาคเบื้องต้นถึงเวลา 10.00 น. มียอดเงินที่โอนเข้ามาในบัญชีแล้ว จำนวน1,025,189.03 บาท (หนึ่งล้านสองหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าบาท) ไม่รวมทองคำหนักหนึ่งบาท และยอดเงินที่โอนมาจากต่างประเทศที่ยังมาไม่ถึง
ในส่วนการจัดการกับควายที่ไถ่ชีวิตออกมาได้นั้น วสันต์ แจ้งว่า สำหรับเจ้าบุญช่วย ทางท่านเจ้าคุณพระประชาธรรมนาถ เจ้าอาวาสวัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทรา ได้แสดงเจตนารมณ์ว่าจะนำมาเลี้ยงไว้ที่วัดก็ได้ เพราะทางวัดมีที่ทาง และรับวัว ควาย จากการไถ่ชีวิต เพื่อให้ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดมากมายได้เลี้ยงอาหารอยู่แล้ว และล่าสุดทางวัดแจ้งว่า อาจจะสามารถรับควายตัวอื่นมาดูแลเพิ่มได้อีก
สำหรับควายตัวเมีย จากศึกษาและพูดคุยในรายละเอียดของโครงการในพระราชดำริของในหลวง เรื่องธนาคารโค กระบือ กับทางหัวหน้าปศุสัตว์อำเภอ ถึงข้อดี ข้อเสีย พวกเราจึงสรุปในเบื้องต้นว่า เราจะมอบตัวเมียให้กับโครงการ เพื่อนำไปให้เกษตรกรที่ยากจน ได้นำไปเลี้ยง ช่วยงาน แพร่ขยายพันธุ์ เป็นรายได้ ต่อชีวิตเกษตรกร ต่อยอดบุญกรรมกันต่อไป โดยมีสัญญา ห้ามขาย ห้ามฆ่า และแบ่งลูกกัน ที่รัดกุมและชัดเจน โดยทางปศุสัตว์จะรับแต่วัวควายเพศเมีย ที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป เข้าโครงการนี้เท่านั้น
ส่วนควายส่วนที่เหลือ วสันต์ บอกว่า กำลังหารือกันอีกครั้งว่า จะนำไปไว้ที่ไหนอย่างไร เพื่อให้เหมาะสมที่สุด
วสันต์ บอกด้วยว่า คุณหมอปราโมทย์ วงษ์เจริญสมบัติ หัวหน้าปศุสัตว์อำเภอศรีมหาโพธิ แจ้งว่า จากการประชุมกับท่านนายอำเภอ หัวหน้าภาคส่วนต่างๆ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จะนำวัว ควาย ที่พวกเราได้ไถ่ชีวิตพวกเขาทั้งหมด มาร่วมทำพิธีไถ่ชีวิตโค กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในวันมหามงคล 12 สิงหา มหาราชินี โดยจะมีพิธี ที่หน้าอำเภอศรีมหาโพธิในช่วงเช้า
จึงขอเรียนเชิญท่านผู้เกี่ยวข้องกับการไถ่ชีวิตโค กระบือในครั้งนี้ ร่วมพิธีโดยทั่วกัน โดยมีพระภิกษุมาทำพิธีทางพุทธศาสนาด้วย
CR: http://www.komchadluek.net/news/regional/237346